เครื่องวัดค่าฝุ่นเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษและหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ทางชมรมผู้รับพระราชทานมูลนิธิอานันทมหิดล เทใจดอทคอม มูลนิธิยุวพัฒน์ โครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิเพื่อคนไทย และภาคีเครือข่ายภาคสังคม จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “ชุมชนรู้ทันฝุ่น” เพื่อสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจต่อสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ของประเทศ ที่มีสาเหตุมาจากการเผาป่า นับว่าเป็นปัญหาใหญ่และรุนแรงมาก สามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในชุมชนได้
ทางโครงการจึงจัดระดมทุนเชิญชวนคนในสังคมร่วมบริจาคผ่านแพลตฟอร์มการบริจาคออนไลน์ “เทใจดอทคอม” นำเงินที่ได้รับไปจัดซื้อครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 และอุปกรณ์ในการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ จำนวน 150 ชุด ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 368,400 บาท
เครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 ทั้ง 150 เครื่องได้ส่งมอบไปยังศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนและโรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง จำนวน 150 แห่ง ครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทยเพื่อนำไปติดตั้งใช้งาน
สำหรับเครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 และอุปกรณ์การสื่อสารที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
- ธง 3 สี (เขียว เหลือง แดง)
- แบนเนอร์ประชาสัมพันธ์
- โปสเตอร์แนะนำโครงการ
ทางศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน และโรงพยาบาลชุมชน นำไปติดตั้งไว้บริเวณพื้นที่ของอาคารที่เป็นศุนย์กลางของผู้คนที่สัญจรไปมาเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อใช้ตรวจวัดค่าฝุ่นที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ทันต่อเหตุการณ์ สามารถป้องกันภัยจากฝุ่นควันที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที
จากการติดตามการใช้งาน พบว่า ทางศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน และโรงพยาบาลชุมชน นอกจากจะนำไปติดตั้งบริเวณอาคารอเนกประสงค์ซึ่งเป็นจุดที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว บางโรงเรียนได้นำไปติดตั้งไว้ที่วัดซึ่งเป็นศูนย์กลางของคนในชุมชนเช่นกัน ได้แก่
โรงเรียนร้องแหย่งวิทยาคมที่นำเครื่องวัดค่าฝุ่นไปติดตั้งไว้ที่วัดวุฒิมงคล จ.แพร่ โดยติดตั้งธง 3 สีไว้กลางลานวัด ให้คนในชุมชนได้เห็นสถานะของค่าฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
และโรงพยาบาลลำสนธิ จ.ลพบุรี นำไปติดตั้งบริเวณทางเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าทำให้ผู้คนที่สัญจรไปมาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนภาคีเครือข่ายร้อยพลังการศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้รับเครื่องวัดค่าฝุ่นจำนวน 8 โรงเรียน และนี่คือเสียงสะท้อนจากผู้เกี่ยวข้อง
นายสราวุธ สมสุนันท์ คุณครูโรงเรียนเหล่ายาว จ.ลำพูน กล่าวว่า “เครื่องวัดค่าฝุ่นที่ได้รับทางโรงเรียนนำไปติดตั้งไว้ที่บริเวณอาคารเรียนส่วนกลาง และนำธงสีแสดงสถานะค่าฝุ่นไปติดตั้งที่บริเวณสนามหญ้า ซึ่งมีประโยชน์ต่อโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เพราะทำให้รู้ค่าฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นจะเบาลงบ้างแล้ว เนื่องจากเป็นฤดูฝนที่มีฝนตกทุกวัน และคนในชุมชนที่มีอาชีพเป็นเกษตรกรปลูกลำไยก็เลิกเผาเศษขยะและเศษใบไม้ เศษกิ่งก้านจากลำไยแล้ว ทำให้ไม่มีหมอกควันเยอะๆ เหมือนที่ผ่านมา”
นายวิทยา ไชยยาติ๊บ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไซ จ.ลำพูน กล่าวว่า “ทางโรงเรียนได้นำเครื่องวัดค่าฝุ่นไปติดตั้งไว้ที่บริเวณทางเข้าโรงเรียนและอยู่ติดถนนส่วนกลาง ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังมองว่าเครื่องวัดค่าฝุ่นเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนได้อีกด้วย โดยบูรณาการเข้ากับวิชาวิทยาศาสตร์ ในช่วงสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นละอองสูงก็สามารถบอกต่อให้คนในชุมชนช่วยกันแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาป่าได้ทันที”
นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือรณรงค์ป้องกันการเผาและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว แม้ว่าสถานการณ์หมอกควันจะลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังเบาใจไม่ได้ เพราะฝุ่นละอองสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากไม่มีการป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ขอชวนคุณมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของคนในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง ด้วยการสนับสนุนโครงการร้อยพลังการศึกษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-301-1117 , 02-301-1056
Line Official Account @tcfe
E-mail: tcfe@ktf.premier.co.th