“ปัญหาก็เหมือนยาขม”

“น้อยหน่า” สาวน้อยเสียงเพราะเธอไปประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวทีงานวัดไปจนถึงการแข่งขันระดับภาคเธอก็คว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้ว น้อยหน่าใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นศิลปินตั้งแต่เด็กจะได้หาเงินส่งตัวเองเรียนและช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ ถึงน้อยหน่าอยากจะเป็นนักร้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะทิ้งการเรียน น้อยหน่ารู้ว่าต่อให้เธอจะเป็นนักร้อง  การศึกษาก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอในอนาคต  

ทั้งความลำบากของพ่อกับแม่ที่น้อยหน่าเห็นมา ทำให้เธอตั้งใจว่าจะต้องเรียนให้สูงจะได้มีงานดีๆทำและเลี้ยงดูพ่อแม่กับน้องได้ในทุกๆ คืน น้อยหน่าต้องตื่นตอน 21.30 น. มาก่อไฟให้พ่อคั้นมะพร้าวเพื่อทำขนมถ้วย หลังจากนั้นเธอก็จะได้เข้านอนตอน 23.30น. แต่ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ น้อยหน่าจะอยู่ช่วยพ่อทำขนมถ้วยจนเสร็จ  พ่อทำขนมถ้วยเสร็จประมาณ 03.30 น. ถึงจะปลุกแม่ให้นำขนมไปขายเนื่องจากว่าพ่อหัวเข่าไม่ดี เพราะเคยถูกรถชนแม่จึงเป็นผู้นำขนมถ้วยไปขายที่ตลาดทุกเช้า 

น้อยหน่าช่วยพ่อแม่ทำขนมถ้วยตั้งแต่ประถม และไปประกวดร้องเพลงแม้จะได้เงินรางวัลจากมาบ้าง แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการเรียนต่อในระดับมัธยมและค่าใช้จ่ายในบ้านที่มีสมาชิกสี่คน แม่และน้องมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบ มีค่าใช้จ่ายในการรักษา น้อยหน่าคิดที่จะเสียสละหยุดเรียนออกมาทำงาน และส่งน้องเรียนต่อ

คุณครูเห็นว่าน้อยหน่ามีความขยันและพยายามที่ช่วยเหลือครอบครัว จึงให้น้อยหน่าเขียนเรียงความและเอกสารขอทุนไปยังมูลนิธิยุวพัฒน์ จนในที่สุด น้อยหน่าได้รับคัดเลือกให้เป็น “นักเรียนทุนยุวพัฒน์”

จากที่เกือบจะไม่ได้เรียนต่อ และเคยไม่ตั้งใจเรียนตามประสาเด็กๆทำให้น้อยหน่าเห็นว่าโอกาสที่เธอได้รับนั้นมันทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไม่อย่างนั้น น้อยหน่าคงเรียนจบแค่ ป.6  หลังจากนั้นมาน้อยหน่าก็พยายามมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จนผลการเรียนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากที่เคยได้เกรด 1 กลายเป็นเกรด 3 กว่าๆ

ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่มันสะท้อนความพยายามความตั้งใจ และการเห็นคุณค่าของโอกาสที่ตนเองได้รับ  การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ และมีเป้าหมายทางการเรียนที่ชัดเจนอย่างน้อยที่สุด จะต้องเรียนจนจบ ม.6

“หลังจากได้ทุน หนูเอาตรงนี้มาจ่ายค่าเทอมชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนใหม่ค่ะ อยากขอบคุณที่ทำให้หนูได้เรียนต่อและมีอุปกรณ์การเรียนที่ดีถ้าไม่ได้ทุนนี้ หนูอาจไม่มีโอกาสเรียนต่อ เวลาเราเรียน เราก็สอนน้องได้เวลาน้องไม่เข้าใจ หรือเวลาพ่อแม่ไม่เข้าใจ เราก็อธิบายให้พ่อแม่เข้าใจได้ตอนนี้สิ่งที่คิดคือเราช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้ด้วยการช่วยงาน แต่ถ้าเราเรียนสูงๆในอนาคต เราจะได้มีงานทำที่ดีและทำให้ครอบครัวสบายขึ้น”

ในชีวิตจริง ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของน้อยหน่า แต่ยังมีเด็กอีกหลายคนไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องหยุดเรียน ออกมทำงานช่วยครอบครัวและส่งให้น้องได้เรียนต่อ อุปสรรคและปัญหาก็สร้างให้น้อยหน่ารู้จักการเสียสละถึงครอบครัวจะลำบาก แต่อย่างน้อยเธอก็มีความสุขที่ยังมีพ่อ แม่น้องอยู่ด้วยกันและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตกำลังหล่อหลอมให้น้อยหน่าเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นคุณค่าทุนชีวิตความลำบากหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตทุกคนก็เช่นกัน อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางเราไม่ให้ไปถึงเป้าหมาย แต่ขณะเดียวกัน “ปัญหาก็เหมือนยา” ที่รสชาติอาจจะขมแต่ทำให้เราแข็งแรงมากขึ้น

ขอขอบคุณเรื่องราวจากน้องน้อยหน่า

นักเรียนทุนยุวพัฒน์

#SchoolToolsxทุนยุวพัฒน์

#ร้อยพลังการศึกษาx@มูลนิธิยุวพัฒน์ (Yuvabadhana Foundation)